ทั้งนี้ส่งผลให้ซัพพลายเชนด้านไอทีมีปัญหา โดยเฉพาะชิ้นส่วนสำคัญในคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค อย่าง "ฮาร์ดดิสก์" ที่ออกอาการซวนเซ อย่างเห็นได้ชัด ถือเป็นจุดสำคัญที่ฉุดให้ตลาดไอทีไม่โตต่อเนื่อง ประกอบกับนโยบายบางส่วนของภาครัฐที่ดูเหมือนจะเข้ามาช่วยเสริมหลายอุตสาหกรรมในประเทศ แต่ก็กลับไม่เป็นเช่นนั้น..
นายวีระ อิงค์ธเนศ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอสวีโอเอ กล่าวว่า ความตื่นตัวของแทบเล็ตส่งผลข้างเคียงต่อโน้ตบุ๊ค และเดสก์ทอป ที่ชะลอการเติบโตลง ต่างจากประมาณการเดิมที่โน้ตบุ๊คและคอมพิวเตอร์จะเติบโต 15-20% ต่อปี แต่ปีนี้จะชะลอไปกว่า 10% อาจถึงขั้นไม่โต หรือติดลบภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ การไม่เติบโตของคอมพิวเตอร์ ไอที มาจากโครงการต่างๆ ของรัฐบาล เช่น รถคันแรก บ้านหลังแรกได้ลดหย่อนภาษี แต่แทบเล็ตแจกฟรีอยู่แล้ว หรือไปใช้ของที่ทำงานก็ได้ ฉะนั้น ผู้บริโภคหันไปซื้อของอื่นที่ได้ลดหย่อนดีกว่า ทำให้บางอุตสาหกรรมดีมาก แต่อุตสาหกรรมอื่นๆ ซบเซา เพราะผู้บริโภคมีเงินเท่าเดิมต้องจัดสรรไปใช้ ส่งผลให้อุตสาหกรรมเครียด ซึ่งจะเห็นได้จากสภาวะหยุดนิ่ง ไม่มีงานเปิดตัวสินค้า หรือโครงการใดๆ ผู้ประกอบการต้องควบคุมค่าใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม นโยบายการแจกแทบเล็ตให้นักเรียนน่าจะเป็นตัวกระตุ้นให้การใช้ไอทีในสังคมไทยเร็วขึ้น ชั้นประถมปีที่ 1 ก็เริ่มสัมผัสเทคโนโลยี และจะขยายไปถึงมัธยม ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ที่สำคัญคือ ต้องใช้ประโยชน์จากแทบเล็ต และใช้ได้ผล ผู้ปกครองเห็นลูกๆ เรียนสนุก และพัฒนาการดีขึ้น ก็จะรู้สึกเป็นบวกกับเทคโนโลยี และกล้าลงทุนนำเทคโนโลยีไปใช้ที่บ้าน
หากผู้บริโภคต้องเข้าใจว่า แทบเล็ตที่รัฐบาลแจกเป็นสเปคพื้นฐานเท่านั้น เพราะฉะนั้น ถ้าเห็นถึงความสามารถเริ่มต้น ใช้งานได้ดี หลักสูตรการเรียนการสอนดี และอาจารย์ผู้สอนถ่ายทอดได้ดี ก็จะช่วยอุตสาหกรรมไอทีได้มาก จากการที่ผู้ปกครองนำไปต่อยอด ซื้อเครื่องสเปคสูงขึ้นให้เด็กๆ ใช้งาน
นโยบายรัฐทำคนชะลอซื้อไอที
แต่อีกมุมหนึ่งในยุคเริ่มต้น ผู้ปกครองจะรอแทบเล็ตที่รัฐบาลแจกฟรี ยังไม่ซื้อให้ลูกๆ ทั้งระดับประถม และมัธยม ทำให้ไอทีเป็นไพรออริตี้แรก ที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากการจัดซื้อแทบเล็ต รัฐบาลดำเนินการเอง ราคาจะถูกกว่าแทบเล็ตแบรนด์เนมอื่นๆ สร้างความเข้าใจผิดกับตลาด ว่าคุณสมบัติเครื่องแทบเล็ตที่รัฐบาลแจกกับแบรนด์เนมมีเท่ากัน แต่ผู้ขายทำกำไรมากขายของแพง ทั้งๆ ที่คุณสมบัติซีพียู ฮาร์ดดิสก์ แรมที่ใช้ต่างกันมาก
"จากผลดังกล่าว การซื้อเครื่องของผู้บริโภคจะเรียกร้องบริการเพิ่มเติม และอื่นๆ อีกมาก เมื่อมาซื้อสินค้าเอง แต่สภาพที่เป็นจริงของตลาด สินค้าไอทีมีส่วนต่างกำไรน้อย กว่าจะใช้เวลาเรียนรู้ความต่างระหว่างของฟรี กับที่ต้องซื้อ คาดว่าต้องใช้ระยะเวลาปรับตัว 1 ปี" นายวีระ กล่าว
ขณะที่ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ครึ่งปีหลังจะหันมาขยายตลาดสมาร์ทโฟน แทบเล็ต เพิ่มมากขึ้น โดยใช้กลยุทธ์เพิ่มความหลากหลายให้แก่ตัวสินค้า สอดคล้องกับเทรนด์การใช้งานของลูกค้า ขณะเดียวกันพยายามกระตุ้นความต้องการกลุ่มผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊คต่อเนื่องเพื่อให้ตลาดเติบโตควบคู่กันไป เชื่อว่าเมื่อระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 8 เริ่มทำตลาดจะช่วยกระตุ้นให้อุตสาหกรรมกลับมาคึกคักได้
หลังจากผลประกอบการไตรมาสที่ 2 เดือน เม.ย. - มิ.ย. มีกำไรสุทธิ 80.15 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2554 ที่ทำได้ 107.64 ล้านบาท เป็นผลมาจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรมไอที ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และการขยายตัวลดลงของกลุ่มสินค้าโน้ตบุ๊ค
หวังไมโครซอฟท์ลุยครึ่งปีหลัง
นายปฐม อินทโรดม กรรมการบริหาร และผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดแทบเล็ตในไทยเติบโตจริง แต่เป็นการโตแบบกระจุกตัวเพราะมีไม่กี่แบรนด์ที่ครองส่วนแบ่งการตลาด หลักๆ คือ แอ๊ปเปิ้ล และซัมซุง แต่แทบเล็ตของไมโครซอฟท์ที่จะเปิดตัว พร้อมกับระบบปฏิบัติการใหม่อย่าง วินโดว์ส8 จะถือเป็นทางเลือกที่ 3 แต่ก็ยังกังวลอยู่ว่าราคาอาจจะไม่ถูกนัก
"ตลาดแทบเล็ตเอง ก็ถือว่า เข้ามาช่วยให้ตลาดไอทีมีสีสัน คึกคักได้ส่วนหนึ่ง แม้จะครองส่วนแบ่งตลาดอยู่แค่ 2 แบรนด์หลัก แต่โดยภาพรวมของตลาดไอทีมในไตรมาสที่ 2-3 นั้นไม่ดีเลย ไตรมาส 2 ที่ผ่านมาตลาดไม่โตเท่าที่ควร ขณะที่ไตรมาส 3 ก็ไม่โตอีก ผมประเมินว่า ภาวะเศรษฐกิจก็ยังไม่น่าจะใช่ตัวฉุดกำลังซื้อ เพราะค้าปลีกยังโต อสังหาฯ ยังโต แต่ไอทีกลับไม่โต ซึ่งตลาดจะอิ่มตัว แต่คิดว่าน่าจะเป็นผลของเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จ่อจะออกในช่วงไตรมาสที่ 4 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคชะลอซื้อ เพราะสับสนว่าจะซื้ออะไรดี เพราะหลายคนคิดว่า ถ้าซื้อช่วงนี้ เทคโนโลยีก็ยังไม่มีอะไรใหม่ เพราะฉะนั้นตอนนี้ทุกสายตาจับจ้องที่ไตรมาส 4 ซึ่งยังมีลุ้นอยู่ โดยยังเชื่อว่า สิ้นปีนี้ตลาดไอทีน่าจะเติบโตได้เฉลี่ย 11-12%"
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า ยังรู้สึกเสียดายโครงการแทบเล็ตภาครัฐ เพราะในส่วนดิจิทัล คอนเทนท์ ที่น่าจะมีโอกาสเติบโตได้สูง และจะเป็นตัวดึงให้ตลาดโตได้กว่านี้ ซึ่งภาครัฐไม่มีนโยบายเรื่องนี้ที่ชัดเจน เลยน่าเสียดายที่ตลาดนี้น่าจะเป็นกำลังสำคัญให้ตลาดได้
"ส่วนของตลาดแทบเล็ตนั้น ผมคาดว่า เร็วๆ นี้ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย น่าจะจับมือกับทางเวนเดอร์ ทำตลาดวินโดว์ส8 เพราะนี่ถือเป็นไม้เด็ดของไมโครซอฟท์ ซึ่งในไทยเองที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ อาจจะดูเงียบเพราะไปเน้นด้านเอ็นเตอร์ไพรซ์ เลยไม่ค่อยเป็นข่าว แต่ผมเชื่อว่า วินโดว์ส8 ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ไม่ปล่อยแน่ น่าจะได้เห็นอะไรดีๆ ออกมาจะช่วยฉุดตลาดไอทีให้ฟื้นได้" นายปฐม กล่าว
ไอดีซีชี้ตลาดแทบเล็ตโต 250%
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักวิจัยไอดีซี ระบุตลาดแทบเล็ตของไทยปี 2555 จะเติบโตถึง 125% คิดเป็นยอดจัดส่งประมาณ 1.3 ล้านเครื่อง ซึ่งรวมส่วนหนึ่งของโครงการแทบเล็ตเพื่อการศึกษาของรัฐบาลไว้ด้วย ขณะที่ ตลาดผู้บริโภคภาคครัวเรือนยังเป็นตลาดหลัก และตลาดภาคธุรกิจ การศึกษาก็มีแนวโน้มเติบโตเช่นกัน
เฉพาะไตรมาสแรก ปี 2555 ตลาดแทบเล็ตเติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนประมาณ 250% และมียอดจัดส่งรวมกว่า 2 แสนเครื่อง และความต้องการซื้อแทบเล็ตยังอยู่ระดับสูงกว่าปริมาณสินค้าในตลาดมาโดยตลอด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น